9 วิธีในการทำความสะอาดผักและผลไม้ที่เป็นมิตรกับคุณ

โดยเป็นมิตรกับงบประมาณ และง่ายมากที่จะทำด้วยตัวเอง ช่วยคุณประหยัดเงินในการล้างผักและผลไม้ที่ซื้อจากร้านค้าราคาแพง

1. น้ำสะอาด

เพียงแค่ใช้น้ำสะอาด แช่ และขัดผิวเบา ๆโดยใช้แปรงขัดก็สามารถกำจัดสิ่งสกปรกได้ ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็ว

2. น้ำส้มสายชู

เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากเกือบทุกบ้านมีน้ำส้มสายชู จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการทำความสะอาดทุกประเภท

ขั้นตอนการล้างผักและผลไม้ด้วยน้ำส้มสายชูไม่ยุ่งยาก เพียงแค่คุณเทน้ำส้มสายชู 1 ส่วนในน้ำ 3 ส่วน จากนั้นนำผักและผลไม้แช่ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที เมื่อเวลาผ่านไปให้ขัด, ล้างออกให้สะอาด และพักไว้ให้แห้ง

3. แอปเปิ้ลไซเดอร์

หากแอปเปิ้ลไซเดอร์สามารถดีท็อกซ์ร่างกาย, ใช้บำรุงผม หรือแม้แต่กำจัดไฝ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เราจะนำมาใช้ล้างผักและผลไม้

ดร.ออซ ระบุว่า แอปเปิ้ลไซเดอร์สามารถขจัดยาฆ่าแมลงและแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยแนะนำให้ใช้ในอัตราส่วน แอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ส่วนต่อน้ำ 10 ส่วน นำผักและผลไม้แช่ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นขัดถูถ้าจำเป็น ล้างออก และพักไว้ให้แห้ง

4. เกลือ

เกลือเป็นยาฆ่าเชื้อตามธรรมชาติที่ช่วยกำจัดสารตกค้างจากยาฆ่าแมลงได้

ทำได้ด้วยการตวงเกลือ 1 ช้อนชา ต่อน้ำ 1 ถ้วยตวง นำผักและผลไม้ลงแช่ประมาณ 2 นาที หลังจากนั้นให้ทำการขัดผิว ล้างน้ำให้สะอาด และผึ่งลมให้แห้ง

5. ปอกเปลือกและตัดแต่ง

วิธีนี้ไม่ใช่วิธีการการล้างผักและผลไม้อย่างแน่นอน แต่ถ้าความกังวลของคุณคือสารกำจัดศัตรูพืชที่ตกค้างอยู่ด้านนอกของวัตุดิบ เช่น แครอท แนะนำให้ปอกเปลือกและตัดแต่งก่อนนำมาบริโภค

6. ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์

เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมพอสมควร ขั้นตอนง่าย ๆ คือ การผสม 1 ช้อนโต๊ะไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3% กับน้ำ 1 แกลลอน นำผักและผลไม้ลงแช่ประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นทำการขัดผิว ล้างด้วยน้ำสะอาด และผึ่งให้แห้ง

7. สารฟอกขาว

เป็นวิธีที่อาจจะไม่เหมาะสำหรับครัวเรือน เนื่องจากการใช้สารฟอกขาวในการฆ่าเชื้อผลิตภัณฑ์ เป็นวิธีการทั่วไปในการผลิตวัตถุดิบเชิงพาณิชย์ ซึ่งได้รับการรับรองจาก FDA ที่อนุมัติให้สำหรับการฆ่าเชื้อผลิตภัณฑ์ด้วยสารฟอกขาว โดยเฉพาะในผักผลไม้แห้ง ดอง แช่อิ่ม และบรรจุกระป๋อง ที่นิยมใช้คือ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ โดยใช้เพื่อเป็นการถนอมอาหารในอีกรูปแบบ

ที่จริงแล้ว การใช้สารฟอกขาวเพื่อฆ่าเชื้อผลิตผลเป็นเรื่องปกติโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มาตรฐานการจัดการอาหารไม่จำเป็นต้องดีที่สุด และโอกาสที่คุณจะป่วยมีสูงหากได้รับในปริมาณที่สูงเกินมาตรฐานกำหนด

ในการฆ่าเชื้อผลิตภัณฑ์โดยใช้สารฟอกขาวทำได้โดยผสมซัลเฟอร์ไดออกไซด์ 2 ช้อนชา กับน้ำ 1 แกลลอน นำผักและผลไม้ลงแช่ หลังจากนั้นล้างทำความสะอาด และผึ่งให้แห้ง

8. น้ำมันหอมระเหยกลิ่นส้ม

เอนไซม์ในน้ำมันหอมระเหยกลิ่นส้ม มีโมโนเทอร์พีนซึ่งมีความสามารถในการละลายสารจากปิโตรเลียม เนื่องจากยาฆ่าแมลงหลายชนิดเป็นน้ำมันจากปิโตรเลียม น้ำมันหอมระเหยจากส้มจึงสามารถขจัดออกได้

แต่คุณจะพบว่าน้ำมันและน้ำจะไม่ผสมกัน ซึ่งหากต้องการใช้น้ำมันหอมระเหยในการล้างผักผลไม้ คุณต้องผสมน้ำมันหอมระเหยกับสบู่น้ำมันมะกอก (Castile Soap)

9. สบู่น้ำมันมะกอก (Castile Soap) 

ขั้นตอนการล้างผลิตภัณฑ์ด้วยสบู่น้ำมันมะกอกและน้ำมันหอมระเหย ได้แก่ ผสมสบู่น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา + น้ำมันหอมระเหยส้ม 7 หยด + น้ำ 1 แกลลอน นำผักและผลไม้ลงแช่ประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นทำการขัดผิวถ้าจำเป็น ล้างทำความสะอาด และผึ่งให้แห้ง

หรือคุณสามารถใช้สบู่น้ำมันมะกอกอย่างเดียววเพื่อล้างผลพืชผลได้เช่นกัน โดยใช้อัตราส่วนเดียวกันกับข้างต้น

การล้างผักจำเป็นหรือไม่

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไม่แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างผักในเชิงพาณิชย์ เนื่องจากยังไม่ได้รับการประเมินความปลอดภัยของสารตกค้างและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ยังไม่ได้รับการทดสอบหรือกำหนดมาตรฐาน นอกจากนี้ องค์การอาหารและยายังแนะนำให้ล้างผลิตภัณฑ์ในน้ำเย็นเพื่อรักษาสภาพผิวของผักและผลไม้ไว้อีกด้วย

คุณสามารถเลือกวิธีการล้างผักและผลไม้ได้ตามวิธีที่กล่างข้างต้น ซึ่งวิธีที่ง่าย นั่นคือ การทำความสะอาดผักและผลไม้ด้วยน้ำส้มสายชู จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้คุณสามารถรับประทานอาหารได้อย่างปลอดภัย